ยินดีต้อนรับ Blog นี้เป็นส่วนหนึ่งของวิชา COP นักศึกษา IT ชั้นปีที่ 2 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิตค่ะ

วันอังคารที่ 5 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ทำ COP ในห้องเรียน (ลิขสิทธิ์เว็บ YOUTUBE)


บัญชีเรื่องเล่า ครั้งที่ 1/2555
(IT Program Storytelling)
โดย...นักศึกษาหลักสูตรเทคโนโลยีสารสนเทศ คณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
วันที่ 26 พฤศจิกายน 2555 เวลา 9.00-12.00 น.
ณ ห้อง 11604 อาคาร 11 มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนดุสิต

Domain   : ลิขสิทธิ์ของเว็บ Youtube
เป้าหมาย : เพื่อให้ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับลิขสิทธิ์ของเว็บ Youtube
ประเด็นสำคัญ : 1. ชี้แจงรายละเอียดเกี่ยวลิขสิทธิ์
                     2. ตัวอย่างงานที่มีลิขสิทธิ์
                     3. สรุป


การทำ COP ในห้องเรียน







คำศัพท์การจัดการความรู้

คำศัพท์การจัดการความรู้



Knowledge strategy : การวางแผนกลยุทธทางด้านความรู้

Knowledge sharing : การแบ่งปันความรู้

Knowledge workers : องค์กรขับเคลื่อนด้วยคนที่มีความรู้ เกิดองค์กรแห่งการเรียนรู้ ซึ่งให้ความ
สำคัญกับ การพัฒนาศักยภาพของมนุษย์ การเรียนรู้และความรู้องค์กรสมรรถนะสูง / องค์กรอัจฉริยะ

Leverage of knowledge asset : ความรู้ที่สร้างขึ้นมาได้จาก SECI 



Action  Learning : การเรียนรู้มากจากการปฏิบัติ

Analyzing  Mistakes : การวิเคราะห์ความผิดพลาดจากการทำงาน

Brainstorming : การระดมสมองในการทำงาน

Computer - Mediated  Communications (CMC) : การติดต่อสื่อสารผ่านทางคอมพิวเตร์

External  Consultants : การมีที่ปรึกษาภายนอกองค์การ

Learning  Contracts : ข้อตกลงระหว่างผู้เรียนกับผู้สอน

Mentoring/ Coaching : การพัฒนาระบบพี่เลี้ยง 

Networking : การสร้างเครือข่ายการทำงาน

Portfolios : แฟ้มงานเพื่อการพัฒนา

Project  work : การพัฒนาการทำงานเชิงโครงสร้าง

Rotating  jobs : การหมุนเวียนการทำงาน

Team  working : การทำงานเป็นทีม


ที่มา ; http://km-model-intrend.blogspot.com/2011/02/km-words.html

วันก่อนครับ


แบ่งปันเรื่องราวในวันวานของคุณให้โลกนี้เต็มไปด้วยเสียงหัวเราะ!


A : วันก่อนครับ
B : ทำไมครับ
A : พาแฟนไปดูคอนเสิร์ตครับ
B : แล้วไงครับ
A : เกิดมีวัยรุ่นตีกัน ปืนงี้เฉี่ยวหัวผมไปนิดเดียว ตกใจมาก ตัวเย็นไปหมด แต่พอแฟนหันมากุมมือเท่านั้นแหละ รู้สึกอุ่นขึ้นมาทันที
B : โอ้ววว พลังแห่งความรัก แค่อยู่ใกล้เธอก็อบอุ่นหัวใจ!!
A : กูฉี่ราดครับ


A : วันก่อนครับ 

B : ทำไมครับ 
A : ผมทะเลาะกับแฟน แฟนผมทั้งด่า ตบ ตี ผมไม่เคยมีเรื่องกันขนาดนี้เลย
B : เอ้า! แล้วเป็นไงบ้างครับ
A : สุดท้ายเธอหันหลังเดินหนี ผมรีบโผเข้ากอดแฟนผมไว้แน่นเลยคับ
B : ทำใจไม่ได้ กลัวจะเสียเธอไปสินะ
A : มันจะไปหยิบปืนครับ

A : วันก่อนครับ

B : ทำไมครับ
A : นัดกับแฟนไว้ที่โลตัสครับ
B : แล้วไงครับ
A : ผมรอเป็นชั่วโมงก็ไม่มาสักที ตอนนั้นโกรธมาก สักพักเธอโทรมาครับ พอเธอพูดมาคำเดียวเท่านั้นแหละ ผมให้อภัยทุกอย่างเลย
B : โห แค่ขอโทษคำเดียวถึงกับยกโทษให้ สงสัยจะรักแฟนมากกก
A : เธอบอก "กูนัดที่บิ๊กซี"

A : วันก่อนครับ 

B : ทำไมครับ 
A : เพื่อนมาเต็มบ้าน เมียดันมาใช้ให้ซักผ้า
B : เว้ยเห้ย!! อายแย่ ใช้งานผัวต่อหน้าเพื่อน! แล้วทำไงครับ 
A : ก็ทนไม่ได้สิครับ! ขึ้นเสียงใส่เมีย แมร่งเลยครับ!!! 
B : "อยากลองดีใช่มั้ย อีแก่!?"
A : แฟ๊บอยู่ไหน!!!!

A: วันก่อนครับ

B: ทำไมครับ
A: ปู่ผมจับงูเหลือมได้ครับ ตัวใหญ่มาก เลยว่าจะเอาไปขาย
B: โอ้ ดีๆ ราคางาม แล้วไงต่อครับ
A: เลยให้ปู่นอนเฝ้าไว้ ตื่นเช้ามาน้ำตาไหลพรากเลยครับ
B: เห้ย หรือว่างูหาย!
A: ปู่หาย!

A: วันก่อนครับ

B: ทำไมครับ
A: บ้านน้ำท่วมครับ
B: แย่เลย ท่วมถึงไหนแล้วล่ะครับ
A: ถึงเข่าเองครับ
B: โห้! นิดเดียวเองทำเป็นพูด
A: กูยืนบนหลังคาครับ...

A: วันก่อนครับ

B: ทำไมครับ
A: เพื่อนของผมไปแข่งรถครับ
B: แล้วไงครับ
A: พอเหยียบคันเร่งเท่านั้นแหละครับ มองไม่เห็นรถคันข้างหลังเลย
B: โห!! เครื่องแรงสุดยอด
A: แมร่งเข้าเกียร์ถอยหลัง !!!

A: วันก่อนครับ

B: ทำไมครับ
A: ไปเข้าสอบเรียนต่อ ม.4 ที่ ร.ร.คับ
B: แล้วไงต่อครับ
A: พอผมไปดูที่ป้ายประกาศห้องนักเรียนเท่านั้นแหละครับผมเดินกลับบ้านเลยคับ
B: สุดยอด!! ไม่มีกังวลเลยยังไงกะห้องคิงชัวร์ๆ
A: ไม่มีชื่อกุเลยสักห้องคับ...

A : วันก่อนครับ

B : ทำไมครับ
A : ไปเที่ยวญี่ปุ่นมาครับ
B : โห! อยากไปบ้างจังแล้วไงต่อครับ
A : พอผมลงจากเครื่องบินเท่านั้นแหละ ร้องไห้เลยคับ
B : ในที่สุดก็มาถึง !! ญี่ปุ่นแดนอนิเมสาวโมเอะ
A : สึนามิพัดมาลูกเบอเร่อเลยครับ T^T

A:วันก่อนครับ

B:ทำไมครับ
A:โชว์ฝีมือทำอาหารให้ที่บ้านกิน
B:โอ้ พ่อบ้าน
A:หลังจากมื้อนั้น ไม่ต้องออกไปกินภัตตาคารอีกนานเลยครับ
B:ฝีมือดีมาก เทียบชั้นกันได้เลย
A:เก็บเงินซ่อมบ้าน ไหม้ทั้งหลัง

a:วันก่อนครับ

b:ทำไมครับ
a:เลิกกะแฟนครับ
b:อ้าว เพราะอะไรล่ะครับเห็นรักกันมากไม่ใช่หรอ
a:ครับ แต่ดันไปเล่นมุกกับเธอ
b:มุกอะไรถึงทำให้เธอเลิกกับคุณล่ะครับ
a:ก็ผมถามเธอว่าทำไมผู้หญิงท้อง9เดือน?
b:แล้วไงครับ
a:เธอก็ถามว่าทำไม ผมก็บอกว่าเพราะไม่มีใครทนอยู่กับผู้หญิงได้ถึง1ปีไงจากนั้นครับ เพียะ!แล้วก็ไปเลยครับ...
b:สมควรครับ-_-^


คลายเครียดกันบ้างนะคะ : ))


ที่มา : FANPAGE วันก่อนครับ 

แฮมชีสทอด


ส่วนประกอบ(สำหรับ 6 ชิ้น):
    - mozzarella cheese 6 แท่งเล็กๆ
    - cheddar cheese (วันนี้ใช้แบบ smoked) 3 แผ่น
      - Ham 1 แผ่น
    - แป้งสาลี
    - เกล็ดขนมปัง
    - ไข่ไก่ 1 ฟอง



เตรียมแป้งกับเกล็ดขนมปังใส่จานที่จะใช้คลุกได้ง่ายๆ
ไข่ไก่ ตีไว้ให้เรียบร้อย
cheddar cheese หั่นครึ่งแผ่น

ขั้นตอนการห่อชีส
นำแฮม 2 ชิ้นมาประกบ mozzarella cheese 
จากนั้นจึงพันด้วย  cheddar cheese 


ชุบไข่ไก่ จากนั้นนำไปชุบแป้งให้ทั่วๆ


นำลงไปชุบไข่อีกครั้ง แล้วนำไปคลุกกับเกล็ดขนมปัง 

ยามยามคลุกให้ทั่วๆ ป้องกันชีสไหลทะลักเวลาทอด




หน้าตาชีสที่ผ่านขั้นตอนมาครบเรียบร้อย ก่อนนำลงทอด

ทอดในน้ำมันร้อนปานกลางให้สุกเหลืองสวย





เสร็จแล้วรับประทาน





ที่มา ; www.googgig.exteen.com

มารู้จัก IT และ IS กัน



 Information Technology หรือ IT คือ การประยุกต์ความรู้และทักษะต่างๆด้านวิทยาศาสตร์ นำมาใช้ในระบบสารสนเทศ  ตั้งแต่กระบวนการจัดเก็บข้อมูล  ประมวลผล การค้าขาย และการเผยแพร่สารสนเทศ เพื่อช่วยให้ได้สารสนเทศที่มีประสิทธิภาพและรวดเร็ว ทันต่อเหตุการณ์

Information System หรือ IS คือ ระบบสารสนเทศที่มีความหมายเชิงระบบ ทำหน้าที่เก็บ รวบรวม   ประมวลผล วิเคราะห์และเผยแพร่สารสนเทศเพื่อจุดประสงค์เฉพาะ

IS ประกอบด้วย
1.ระบบคอมพิวเตอร์ ( software , hardware )
2.ระบบเครือข่ายฐานข้อมูล
3.ผู้พัฒนา  รวมถึงผู้ใช้ระบบ

ความเหมือนกันของ IT และ IS คือ การประยุกต์  เก็บรวบรวม ประมวลผล เพื่อนำไปวิเคราะห์ และนำไปเผยแพร่  ทำให้ได้รับรู้ถึงสารสนเทศได้สะดวกและรวดเร็วขึ้น

ความแตกต่างของ IT และ IS คือ
- IT คือวิทยาการ  ความก้าวหน้า มาประยุกต์  รวบรวม ประมวลผล และจัดเก็บข้อมูล
- IS คือ กระบวนการจัดการระบบสารสนเทศ ทำการรวบรวม ประมวลผล คิด วิเคราะห์  เผยแพร่โดยอาศัยคอมพิวเตอร์ โดยผู้พัฒนาระบบ  และผู้ใช้ระบบ

ที่มา ; http://www.learners.in.th/blogs/posts/531904

วิธีดูแลรักษาคอมพิวเตอร์



1.ทำความสะอาดคอมพิวเตอร์  ทำความสะอาดโดยใช้ผ้าสะอาดชุบน้ำเปล่า หรือน้ำยาทำความสะอาดคอมพิวเตอร์ เช็ดส่วนต่างๆที่เป็นตัวเครื่องหรือกรอบหน้าจอ เมาส์ คีย์บอร์ด รวมถึงสายไฟคอมพิวเตอร์ แต่เราต้องทำอย่างระมัดระวัง  ควรถอดปลั๊กออกให้เรียบร้อยก่อน เพื่อความปลอดภัย

2.เป่าฝุ่นหรือกำจัดฝุ่นที่อยู่บนตัวเครื่อง ให้ใช้แปลงทาสีที่มีขนอ่อนๆ หรือ เครื่องเป่าเพื่อไล่ฝุ่นออกจากคอมพิวเตอร์

3. เข้าศูนย์หรือร้านซ่อมคอมพิวเตอร์ ให้ช่างคอมพิวเตอร์ช่วยตรวจสอบว่าอุปกรณ์ต่างๆอยู่ในสภาพปกติดีอยู่หรือไม่

4.จัดการไฟล์ที่ไม่ได้ใช้แล้วหรือไม่สำคัญ  ไฟล์ต่างๆที่เราดาวน์โหลดมาหรือเก็บไว้ในเครื่องคอมพิวเตอร์หากไม่จำเป็นหรือไม่ได้ใช้งานก็ควรลบทิ้งจากเครื่องคอมพิวเตอร์ เพราะจะทำให้ไม่หนักเครื่องในส่วนของหน่วยความจำ และจะมีทีว่างรับข้อมูลใหม่

5.จัดระเบียบโฟลเดอร์ต่างๆ  ในการจัดระเบียบนั้นจะช่วยประหยัดเวลาและช่วยในเรื่องการทำงานของเราได้เพราะเมื่อเราจัดการไฟล์และโฟลเดอร์ต่างๆให้เป็นระเบียบเรียบร้อย เวลาที่หาไฟล์ต่างๆก็จะสะดวกมากขึ้น เครื่องก็จะทำงานไม่หนัก และจะหาได้รวดเร็วยิ่งขึ้น

6.ลบโปรแกรมที่ไม่ได้ใช้งานทิ้ง หากโปรแกรมหรือเกมส์ไหนที่เราไม่ได้ใช้งานแล้ว เราควรจะลบออกเช่นเดียวกับโฟลเดอร์และไฟล์ เพราะจะทำให้เครื่องคอมพิวเตอร์ของเราไม่ทำงานหนักที่ต้องเตรียมโปรแกรมต่างๆไว้รอเวลาที่เราจะเรียกใช้งาน

7.สแกนไวรัสในคอมพิวเตอร์  หมั่นสแกนไวรัสอยู่สมอเพื่อให้คอมพิวเตอร์ของเราปลอดภัยจากไวรัสต่างๆ และเพื่อรักษาข้อมูลสำคัญของเราให้ปลอดภัย

8.หมั่นเรียนรู้วิธีใช้งานที่ถูกต้อง  รู้จักเรียนรู้วิธีใช้งาน เพียงแค่เราคอยเอาใจใส่คอมพิวเตอร์ ก็จะทำให้คอมพิวเตอร์ของเราใช้งานได้อีกยาวนาน

ที่มา ; http://www.tososay.com

วิธีถนอมสายตา หน้าจอคอมพิวเตอร์




                                       1. เลือกจอภาพที่มีการกระจายรังสีต่ำเพื่อถนอมสายตา ทดสอบง่ายๆได้โดยลองปิดสวิตช์จอภาพ แล้วเอามือหรือแขนไปจ่อไว้ใกล้ๆ จอคอมพิวเตอร์ให้มากที่สุด จอภาพที่มีการกระจายรังสีต่ำจะแทบไม่รู้สึกถึงไฟฟ้าสถิตตามขนที่ผิว คือไม่รู้สึกขนลุก
                         2.ปรับแสงและความคมชัดของหน้าจอคอมพิวเตอร์ให้รู้สึกสบายตา รวมทั้งความสว่างภายในที่ทำงาน ลดแสงสะท้อนรบกวน เช่น ปิดไฟดวงที่สะท้อนจ้าลงบนจอคอมพิวเตอร์ หากทำงานกับคอมพิวเตอร์ในสภาพแวดล้อมที่มีแสงจ้าและจอภาพมีความสว่างมาก ก็จะยิ่งส่งผลเสียต่อดวงตาได้ง่ายและรวดเร็ว จะรู้สึกว่ามีอาการปวดร้าวดวงตาเร็วและแสบตาอย่างรุนแรง
                          3.ใช้แผ่นกรองรังสีติดไว้ที่หน้าจอคอมพิวเตอร์ แม้ว่าจะช่วยลดการกระจายรังสีจากจอคอมพิวเตอร์ได้บ้างหรือไม่ได้บ้าง แต่อย่างน้อยก็ช่วยลดแสงจ้าจากจอคอมพิวเตอร์ลงได้ 
                      4.ตำแหน่งของจอภาพควรห่างจากดวงตาประมาณ 18-24 นิ้ว หรือประมาณช่วงแขนเอื้อม และปรับให้ต่ำกว่าระดับสายตาประมาณ 15-20 องศา หากระยะห่างระหว่างตากับจอภาพไม่สัมพันธ์กัน จะทำให้เกิดอาการเมื่อยล้าและปวดตาได้ง่าย
                          5.ควรกะพริบตาให้บ่อยครั้งกว่าปกติ เพื่อให้มีน้ำหล่อเลี้ยงดวงตาอยู่เสมอ ควรกระพริบตา 1-2 ครั้ง ภายใน 10 วินาที จะสามารถช่วยลดความอ่อนล้าของสายตาได้
                          6.ทำความสะอาดหน้าจอคอมพิวเตอร์อยู่เสมอ เพราะฝุ่นจากหน้าจอคอมพิวเตอร์จะทำให้เกิดการสะท้อนแสงมากขึ้น ซึ่งส่งผลกระทบต่อดวงตา
                           7.หยุดพักหรือเปลี่ยนตารางเวลาการทำงาน จะช่วยให้ลดความความเมื่อยล้าจากการจ้องเพ่งจอคอมพิวเตอร์ได้ เช่น พักสายตาทุก 30 นาที โดยหลับตาหรือมองไปไกลๆ สัก 5-10 นาที ก็จะช่วยถนอมสายตาได้ 
8.ตรวจสุขภาพสายตาบ่อยๆ     

ที่มา ; http://hilight.kapook.com/view/28973